บทความ
วิธี วางโครงสร้างพัฒนาเขียนโปรแกรมแอปพลิเคชั่นด้วย Flutter และ Dart
การวางโครงสร้างพัฒนาเขียนโปรแกรมแอปพลิเคชั่น ด้วย Flutter และ Dart นั้นสามารถทำได้ในหลายรูปแบบ ขึ้นอยู่กับขนาดของโปรเจคและความซับซ้อนของแอปพลิเคชัน แต่ด้วยความสะดวกและความเหมาะสมในการใช้งาน สามารถนำเสนอวิธีการวางโครงสร้างพัฒนาเบื้องต้นสำหรับโปรเจคขนาดเล็กถึงกลางได้ดังนี้
-
แบ่งโค้ดเป็นส่วนย่อย (Modularization)
การแบ่งโค้ดเป็นส่วนย่อยเป็นเรื่องสำคัญในการพัฒนาโปรแกรม เพราะจะทำให้โค้ดมีความเป็นระเบียบและง่ายต่อการบำรุงรักษา โดยสามารถแบ่งโค้ดออกเป็นโมดูลย่อยๆ ที่มีการทำงานเฉพาะกัน เช่น โมดูลสำหรับการจัดการ UI, โมดูลสำหรับการเชื่อมต่อ API, โมดูลสำหรับการจัดการฐานข้อมูล เป็นต้น
-
ใช้โครงสร้างของ Flutter
Flutter มีโครงสร้างพื้นฐานที่ช่วยให้ผู้พัฒนาสามารถจัดการโค้ดได้อย่างมีระเบียบ โดยมีโฟลเดอร์หลัก 3 โฟลเดอร์คือ
- lib: เป็นโฟลเดอร์หลักที่เก็บโค้ดของแอปพลิเคชัน
- test: เป็นโฟลเดอร์ที่เก็บโค้ดสำหรับการทดสอบ (Unit testing)
- android, ios: เป็นโฟลเดอร์ที่เก็บโค้ดของแอปพลิเคชันสำหรับแพลตฟอร์ม Android และ iOS
โดยสามารถเพิ่มโฟลเดอร์ย่อยเพิ่มเติมในโฟลเดอร์ lib เพื่อแบ่งโค้ดเป็นส่วนย่อย ๆ ได้ตามความต้องการ
-
ใช้ State Management ที่เหมาะสม
State Management เป็นกระบวนการจัดการกับข้อมูลและสถานะของแอปพลิเคชัน เพื่อให้การแสดงผลของแอปพลิเคชันเป็นไปอย่างถูกต้องและสมบูรณ์ ใน Flutter มี State Management หลายแบบ เช่น Provider, BLoC, Redux เป็นต้น โดยสามารถเลือกใช้ State Management ที่เหมาะสมกับโปรเจคของเราได้
-
ใช้ Version Control System (VCS)
การใช้ Version Control System เป็นเรื่องสำคัญในการพัฒนาโปรแกรม เพราะจะช่วยให้สามารถบันทึกการเปลี่ยนแปลงของโค้ดได้และสามารถย้อนกลับไปดูการเปลี่ยนแปลงได้
การวางโครงสร้างโฟลเดอร์ในการเขียนโปรแกรม Flutter จะช่วยให้การจัดการและพัฒนาโปรแกรมเป็นไปได้อย่างมีระเบียบและง่ายต่อการบริหารจัดการ โดยปกติแล้ว โครงสร้างโฟลเดอร์ที่ใช้ในการเขียน Flutter จะมีลักษณะดังนี้
project/
├─ android/
├─ ios/
├─ lib/
├─ test/
└─ pubspec.yaml
android/
- เก็บโค้ดของแอป Android ที่เขียนด้วย Kotlin หรือ Javaios/
- เก็บโค้ดของแอป iOS ที่เขียนด้วย Swift หรือ Objective-Clib/
- เก็บโค้ดของแอป Flutter ที่เขียนด้วย Darttest/
- เก็บไฟล์ทดสอบ (unit tests และ integration tests)pubspec.yaml
- เก็บข้อมูลสำหรับการจัดการ dependencies ของแอป
การวางโครงสร้างโฟลเดอร์ในการเขียนโปรแกรม Flutter สามารถทำได้หลายวิธี แต่วิธีที่แนะนำจะเป็นการวางโครงสร้างโฟลเดอร์ตามแนวทางของ Flutter ดังนี้
- สร้างโฟลเดอร์
lib
เป็นหลัก - สร้างโฟลเดอร์
lib/screens
สำหรับเก็บไฟล์สำหรับแสดงผลหน้าจอ - สร้างโฟลเดอร์
lib/widgets
สำหรับเก็บไฟล์สำหรับ widget ที่ใช้ร่วมกันในหลายหน้าจอ - สร้างโฟลเดอร์
lib/models
สำหรับเก็บไฟล์สำหรับจัดการข้อมูลแบบ Model - สร้างโฟลเดอร์
lib/services
สำหรับเก็บไฟล์สำหรับเชื่อมต่อกับ API หรือข้อมูลภายนอก - สร้างโฟลเดอร์
lib/utils
สำหรับเก็บไฟล์ helper function หรือ configuration ที่เกี่ยวข้องกับโปรแกรม
ตัวอย่างโครงสร้างโฟลเดอร์ที่ถูกต้อง:
lib/
main.dart
screens/
home_screen.dart
detail_screen.dart
widgets/
app_drawer.dart
custom_button.dart
models/
product.dart
user.dart
services/
api_service.dart
database_service.dart
utils/
constants.dart
validators.dart
โครงสร้างโฟลเดอร์นี้จะทำให้ง่ายต่อการจัดการโค้ด แยกไฟล์ตามบทบาทและฟังก์ชันของส่วนต่าง ๆ ทำให้ง่ายต่อการปรับปรุง และทำให้เกิดความเรียบง่ายในการพัฒนา รวมถึงช่วยให้โค้ดสามารถนำไปใช้ใหม่ได้ง่ายขึ้นด้วย
หนังสือพัฒนาตัวเอง
จุดเริ่มต้นที่ชัดเจน