สำหรับคนทำธุรกิจ การใช้ โซเชียลมีเดีย เป็นหลัก เช่น การมุ่งยอดวิว ยอดติดตาม หรือยอดคอมเมนต์ ถือเป็นเรื่องดี ถ้ามีรายได้ด้วย แต่หากพึ่งพาเพียงโซเชียลมีเดีย โดยไม่มี เว็บไซต์ เพื่อเสริมความน่าเชื่อถือ ก็อาจทำให้ธุรกิจขาดความสมบูรณ์

ข้อดีของการมีเว็บไซต์
  - เพิ่มความน่าเชื่อถือ
  - แสดงข้อมูลสินค้าและบริการได้ครบถ้วน
  - ยืนยันตัวตนของธุรกิจ

การผสานโซเชียลมีเดียและเว็บไซต์
ควรใช้ทั้งโซเชียลมีเดียและเว็บไซต์ร่วมกัน เพื่อสร้างความเชื่อมโยงและเพิ่มมูลค่าให้ธุรกิจ ตอบโจทย์เป้าหมายที่วางไว้ จะช่วยสร้างความสมดุลในเชิงการตลาด โดยใช้โซเชียลมีเดียในการสร้างการรับรู้และเข้าถึงลูกค้า ส่วนเว็บไซต์ช่วยจัดการข้อมูลเชิงลึกและสร้างฐานข้อมูลลูกค้า เช่น การเก็บ อีเมล หรือ เบอร์โทรศัพท์ เพื่อการทำการตลาดที่ยั่งยืน

ตัวอย่างที่น่าสนใจ
ผู้ติดตาม 20,000 คน ในโซเชียลมีเดียอาจไม่ได้แปลว่าทุกคนคือกลุ่มเป้าหมายที่แท้จริง บางครั้งผู้ติดตามเหล่านั้นอาจไม่ได้สนใจสินค้าหรือบริการของคุณ
หากมีฐานข้อมูลอีเมลลูกค้า 10,000 คน ที่เคยซื้อสินค้าหรือแสดงความสนใจ จะมีคุณค่ามากกว่า เพราะสามารถส่งโปรโมชั่นหรือข้อเสนอที่ตรงความต้องการได้

ข้อดีของการตลาดโดยตรง (Direct Marketing) อย่างเช่น Email
    เข้าถึงกลุ่มลูกค้าที่สนใจและมีโอกาสซื้อมากที่สุด
    สร้างความน่าเชื่อถือและความสัมพันธ์ที่ยั่งยืน
    วัดผลลัพธ์ได้ง่าย เช่น อัตราการเปิดอีเมล (Open Rate) หรืออัตราการคลิก (CTR)

ข้อควรระวัง
การพึ่งพาแพลตฟอร์มที่ธุรกิจไม่สามารถควบคุมได้ เช่น Line OA หรือโซเชียลมีเดียเพียงอย่างเดียว อาจเกิดปัญหาที่ไม่คาดคิด เช่น ฐานลูกค้าหายหรือระบบไม่เสถียร
 
ตัวอย่างเช่น หลายวันก่อนได้คุยกับลูกค้ารายหนึ่งเคยประสบปัญหาลูกค้าในบัญชี Line OA หายไปทั้งหมด เมื่อติดต่อทีมงาน Line ได้รับคำตอบว่าเกิดจากการลบข้อมูลโดยเจ้าของบัญชี แต่เจ้าตัวยืนยันว่าไม่ได้ลบ ส่งผลให้ข้อมูลที่สะสมไว้สูญเสียหาย

ดังนั้น การมี เว็บไซต์ เป็นตัวสำรองจะช่วยลดความเสี่ยงและเพิ่มความมั่นคงให้กับธุรกิจ สำหรับหลายๆคนที่มุ่งนั่นไปทางโซเชียลมีเดีย หรืออีกหลายๆบริษัทใช้ เว็บไซต์ เป็นช่องทางหลัก