logo icon
ธนินัชดอทคอม - รับสร้าง Website, Mobile Application
image

บทความ

ธนินัช ดอทคอม - ผู้เชี่ยวชาญทำเว็บไซต์

Syntax , Object Oriented Programming เข้าใจแบบง่ายๆ

Syntax ในการเขียนโปรแกรม หมายถึง โครงสร้างภาษา หรือรูปแบบในการเขียนภาษา ที่กำหนดวิธีการเขียนโค้ดให้ถูกต้องตามภาษาที่ใช้งาน โดยมีการกำหนดวิธีการใช้คำสั่ง ตัวแปร และการเขียนโค้ดต่าง ๆ อย่างเหมาะสมและถูกต้อง ทำให้โค้ดสามารถทำงานได้อย่างถูกต้องและเป็นไปตามที่ต้องการ


Object Oriented Programming (OOP) เป็นแนวคิดในการเขียนโปรแกรมที่มุ่งเน้นไปที่วัตถุ (Object) เพื่อทำให้โค้ดมีความสมบูรณ์และอ่านง่ายมากขึ้น โดยมีคุณสมบัติหลัก ๆ ดังนี้

  1. Encapsulation: การป้องกันการเข้าถึงและแก้ไขข้อมูลที่สร้างขึ้นในคลาส โดยใช้คีย์เวิร์ด private, public, และ protected เพื่อเข้าถึงตัวแปรและเมทอดในคลาส

  2. Inheritance: การสืบทอดคุณสมบัติของคลาสหลัก (Superclass) ไปยังคลาสย่อย (Subclass) เพื่อลดการเขียนโค้ดซ้ำซ้อน

  3. Polymorphism: ความสามารถในการสร้างเมทอดที่มีชื่อเหมือนกันแต่มีพฤติกรรมที่แตกต่างกันได้ เช่น การ overload method หรือการ override method

โดยการเขียนโปรแกรมเชิงวัตถุ OOP จะประกอบด้วยคลาส (Class) และออบเจ็กต์ (Object) ซึ่งต้องเข้าใจกันดังนี้

  • Class: คือแบบแผนการสร้างวัตถุ (Blueprint) ที่กำหนดคุณสมบัติและพฤติกรรมของวัตถุ โดยประกอบด้วยตัวแปร (Properties) และเมทอด (Methods)

  • Object: คือสิ่งที่สร้างขึ้นจากแบบแผนการสร้างวัตถุ (Class) โดยจะมีคุณสมบัติและพฤติกรรมตามที่ได้กำหนดไว้ในคลาส

 

Synchronous (ซิงโครนัส) และ Asynchronous (อะซิงโครนัส) คือสองแบบการทำงานของโปรแกรมที่แตกต่างกันตามวิธีการประมวลผลของคำสั่ง ใน Synchronous คำสั่งจะทำงานต่อเนื่องกัน และจะต้องรอให้คำสั่งก่อนหน้าเสร็จก่อนถึงจะทำคำสั่งถัดไป ในขณะเดียวกัน ใน Asynchronous คำสั่งจะทำงานพร้อมกันและไม่จำเป็นต้องรอให้คำสั่งก่อนหน้าทำงานเสร็จก่อน โดยมีการใช้โครงสร้างของ callback ในการจัดการกับผลลัพธ์

Callback คือฟังก์ชันที่ถูกส่งไปยังฟังก์ชันอื่นเพื่อให้มันทำงานเมื่อฟังก์ชันอื่นทำงานเสร็จสิ้นแล้ว ส่วนใหญ่ใช้กับการเรียกใช้ฟังก์ชันแบบ Asynchronous เพื่อรับผลลัพธ์หลังจากทำงานเสร็จสิ้น โดยในการเรียกใช้ฟังก์ชันแบบ Asynchronous จะมีการส่ง callback function ไปยังฟังก์ชันอื่นเพื่อให้มันทำงานเมื่อฟังก์ชันอื่นทำงานเสร็จสิ้น ซึ่งจะช่วยลดเวลาที่ต้องใช้ในการรอผลลัพธ์ออกมา และช่วยให้โปรแกรมทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

เพื่อให้เข้าใจง่ายขึ้น สามารถอธิบายได้ดังนี้

  • Synchronous: การใช้งานเมื่อต้องการเรียกใช้งาน function ให้ทำงานตามลำดับ โดยไม่สนใจเวลาที่จะใช้ในการทำงานของ function ก่อนหน้า

  • Asynchronous: การใช้งานเมื่อต้องการเรียกใช้งาน function โดยไม่จำเป็นต้องรอให้ function ก่อนหน้าทำงานเสร็จสิ้น แต่สามารถทำงานพร้อมกันได้ โดยมีการใช้ callback function เพื่อจัดการผลลัพธ์

  • Callback: เป็นฟังก์ชันหรือตัวแปรที่สามารถถูกส่งเป็นอาร์กิวเมนต์ (Arguments) ในฟังก์ชันอื่นเพื่อทำงานต่อเมื่อฟังก์ชันนั้นทำงานเสร็จแล้ว ซึ่งการใช้ Callback เป็นเทคนิคหนึ่งที่ช่วยให้เราจัดการกับ Asynchronous การทำงานได้ง่ายขึ้น โดยทั่วไปแล้ว Callback จะถูกส่งเป็นพารามิเตอร์สุดท้ายในฟังก์ชัน เพื่อให้ฟังก์ชันทำงานเมื่อทำงานเสร็จสิ้น

 

Class ,method ,property , Function , Arguments , Parameter คือ

  • Class: คือรูปแบบการเขียนโปรแกรมที่เป็นแบบชนิดหนึ่ง ที่ใช้สำหรับกำหนดคุณสมบัติและพฤติกรรมของอ็อบเจกต์

  • Method: คือฟังก์ชันที่อยู่ภายในคลาส ซึ่งมีการกำหนดพฤติกรรมของอ็อบเจกต์

  • Property: คือตัวแปรที่อยู่ภายในคลาส ซึ่งมีการกำหนดคุณสมบัติของอ็อบเจกต์

  • Function: คือชุดคำสั่งที่รวมกันเป็นกลุ่มเพื่อให้ทำงานบางอย่าง โดยสามารถส่งค่าออกมาได้หรือไม่ก็ไม่ต้องส่งค่าออกมาก็ได้

  • Arguments: คือข้อมูลที่ส่งเข้าไปในฟังก์ชันเพื่อนำมาประมวลผล ซึ่งสามารถเป็นค่าตัวแปรหรือค่าคงที่ได้

  • Parameter: คือตัวแปรที่กำหนดไว้ภายในฟังก์ชันเพื่อรับค่า Arguments ที่ถูกส่งเข้ามา ซึ่งจะถูกใช้งานในการประมวลผลของฟังก์ชันเท่านั้น โดย Parameter จะถูกกำหนดในช่วงการประกาศฟังก์ชัน

หนังสือพัฒนาตัวเอง

จุดเริ่มต้นที่ชัดเจน

เว็บไซต์หรือแอปพลิเคชั่นของคุณเริ่มต้นที่นี่

ลงทะเบียนแล้วเราจะส่งข้อเสนอที่ดีที่สุดให้กับคุณ