logo icon
ธนินัชดอทคอม - รับสร้าง Website, Mobile Application
image

บทความ

ธนินัช ดอทคอม - ผู้เชี่ยวชาญทำเว็บไซต์

การรับจ้างทำ SEO ควรมีความรู้เรื่องอะไรบ้าง?

SEO มี 2 แบบหลัก ดังนี้:

1.On-page SEO: ปรับปรุงปัจจัยภายในเว็บไซต์ เพื่อส่งเสริมการติดอันดับในเครื่องมือค้นหา

- การวิเคราะห์คำหลัก (Keyword Research): ค้นหาคำหลักที่เกี่ยวข้องและมีความสำคัญในเนื้อหาของคุณ และนำไปใช้งานในหัวเรื่อง, ข้อความย่อย, และเนื้อหา

- การปรับปรุงโครงสร้างเว็บ (Site Structure): ออกแบบโครงสร้างเว็บไซต์ให้มีลำดับความสำคัญของหน้าเว็บและเชื่อมโยงภายในอย่างเหมาะสม ทำให้การเข้าถึงเนื้อหาง่ายขึ้น

- ปรับปรุงประสิทธิภาพการใช้งาน (UX): สร้างประสบการณ์การใช้งานที่น่าสนใจและง่ายต่อการใช้งาน โดยให้ความสำคัญกับการออกแบบที่ตอบสนอง (Responsive Design) และความเร็วในการโหลดหน้าเว็บ

- การสร้างเนื้อหาคุณภาพ: สร้างเนื้อหาที่มีคุณค่า และเป็นประโยชน์สำหรับผู้ใช้งาน ซึ่งจะนำไปสู่การเพิ่มความน่าสนใจและความนิยมของเว็บไซต์

- การปรับปรุง Meta tags และ Schema Markup: ใส่ข้อมูล Meta tags ที่เกี่ยวข้องกับหัวเรื่อง, คำอธิบาย, และคำหลักสำหรับแต่ละหน้าเว็บ และใช้งาน Schema Markup เพื่อช่วยให้เครื่องมือค้นหาเข้าใจและจัดอันดับเว็บไซต์ของคุณได้ดียิ่งขึ้น 

ดังนี้:

 - Meta tags: Meta tags คือ ข้อมูลที่อยู่ภายในแท็ก <head> ของเว็บไซต์ ที่ไม่ปรากฏบนหน้าเว็บแต่มีความสำคัญในการแสดงผลในเครื่องมือค้นหา มีหลายประเภท มากอันดับไม่น้อย ที่สำคัญที่สุดคือ:
- Meta title: แสดงชื่อหัวเรื่องของหน้าเว็บ ควรมีความเกี่ยวข้องกับเนื้อหา และคำหลักที่คุณต้องการให้ติดอันดับ
- Meta description: คำอธิบายสั้น ๆ ของเนื้อหาในหน้าเว็บ ซึ่งจะปรากฏในหน้าผลลัพธ์การค้นหา ควรเขียนให้น่าสนใจและมีคำหลักที่เกี่ยวข้อง
- Schema Markup: Schema Markup เป็นรูปแบบของข้อมูลที่มาตรฐานจาก Schema.org ที่ช่วยให้เครื่องมือค้นหาเข้าใจเนื้อหาของคุณได้ดียิ่งขึ้น และแสดงผลลัพธ์ที่มีความสมบูรณ์และน่าสนใจยิ่งขึ้น เช่น รีวิว, ราคา, วันและเวลา, ตำแหน่งที่ตั้ง ฯลฯ

ตัวอย่างของการใช้งาน Meta tags สำหรับหน้าเว็บที่ขายรองเท้าวิ่ง:

 

<head>

  <title>รองเท้าวิ่งคุณภาพสูง สำหรับผู้ชายและผู้หญิง - ร้านขายรองเท้า XYZ</title>

  <meta name="description" content="ค้นหารองเท้าวิ่งคุณภาพสูงสำหรับผู้ชายและผู้หญิง ...." />

  <meta name="keywords" content="รองเท้าวิ่ง, รองเท้าผู้ชาย, รองเท้าผู้หญิง, ขายรองเท้า, ร้านขายรองเท้า" />

</head>

 

ในตัวอย่างนี้:

  • แท็ก <title>: กำหนดชื่อหัวเรื่องของหน้าเว็บ ควรสื่อความหมายของเนื้อหาและประกอบด้วยคำหลักที่เกี่ยวข้อง

  • แท็ก <meta name="description">: กำหนดคำอธิบายสั้น ๆ ของหน้าเว็บ ซึ่งจะปรากฏในหน้าผลลัพธ์การค้นหา ควรเขียนให้น่าสนใจและมีคำหลักที่เกี่ยวข้อง

  • แท็ก <meta name="keywords">: แม้ว่าเครื่องมือค้นหาบางตัวจะไม่ใช้แท็กนี้ในการจัดอันดับ แต่มันยังคงเป็นการบ่งบอกให้นักพัฒนาเว็บไซต์และ SEO รู้ว่าคำหลักใดที่เกี่ยวข้องกับเนื้อหาในหน้าเว็บนั้น

 

 

2. Off-page SEO: การสร้างความน่าเชื่อถือและความสัมพันธ์ของเว็บไซต์ในออนไลน์ โดยมีเป้าหมายเพื่อส่งเสริมการติดอันดับในเครื่องมือค้นหา

- สร้าง Backlinks คุณภาพ: ค้นหาและสร้างความสัมพันธ์กับเว็บไซต์ที่มีความน่าเชื่อถือ และทำการสร้างลิงก์กลับ (backlinks) ที่มีความเกี่ยวข้องและเพิ่มความน่าเชื่อถือ

- การประชาสัมพันธ์ (PR) และการสื่อสาร: สร้างและส่งเสริมเนื้อหาที่น่าสนใจและมีประโยชน์ เพื่อนำไปแชร์ในช่องทางต่างๆ เช่น สื่อสัมพันธ์, บล็อก, และ Social Media

- การเขียนบทความแขกรับเชิญ (Guest Posting): เขียนบทความที่เกี่ยวข้องและมีคุณภาพสูง เพื่อนำไปแชร์ในเว็บไซต์อื่น ๆ ที่มีเป้าหมายเดียวกัน ทำให้เกิดการแลกเปลี่ยนความรู้และสร้างความสัมพันธ์

- การเข้าร่วมในฟอรั่มและกลุ่มออนไลน์: เข้าร่วมในกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจของคุณ เพื่อสร้างความสัมพันธ์และเสนอเนื้อหาที่มีคุณค่าแก่ผู้ใช้งาน


เคล็ดลับในการทำ SEO ในเว็บไซต์ที่ดี มีดังนี้:

  • มุ่งเน้นในความเป็นมืออาชีพของเนื้อหา: จัดทำเนื้อหาที่มีคุณภาพสูง มีข้อมูลที่ถูกต้อง และเป็นประโยชน์ พยายามให้เนื้อหาที่ครอบคลุมและตอบโจทย์คำถามของผู้ใช้

  • ปรับปรุงประสิทธิภาพเว็บไซต์: ให้เว็บไซต์โหลดได้อย่างรวดเร็ว ทั้งในแง่ของเวลาโหลดหน้าเว็บและความน่าใช้งาน เพื่อการประสบการณ์ที่ดีของผู้ใช้

  • ใช้หัวเรื่องและข้อความย่อยที่น่าสนใจ: ให้หัวเรื่องและข้อความย่อยมีความสัมพันธ์กับเนื้อหา และมีคำหลัก (keywords) ที่เกี่ยวข้อง เพื่อช่วยในการติดอันดับของเครื่องมือค้นหา

  • ปรับปรุงความปลอดภัยของเว็บไซต์: ให้เว็บไซต์มีการใช้ HTTPS สำหรับการเชื่อมต่อที่ปลอดภัย ซึ่งเป็นปัจจัยหนึ่งที่มีความสำคัญในการติดอันดับ

  • ใช้งาน Schema Markup: นำเสนอข้อมูลในรูปแบบที่เข้าใจง่ายสำหรับเครื่องมือค้นหา นำไปสู่การแสดงผลที่เด่นขึ้นและสามารถดึงดูดความสนใจของผู้ใช้

  • ปรับปรุง User Experience (UX): ทำให้เว็บไซต์ของคุณมีการใช้งานที่ง่าย สะดวกและมีประสบการณ์ที่ดี

 

Schema Markup คือการเพิ่มข้อมูลเสริมในรูปแบบของโค้ด HTML ลงในหน้าเว็บของคุณเพื่อช่วยให้เครื่องมือค้นหาเข้าใจเนื้อหาในเว็บไซต์ของคุณได้ง่ายขึ้น และสามารถนำไปสู่การแสดงผลที่มีความเด่นในหน้าผลลัพธ์ค้นหา (SERPs) เช่น การแสดงผลรีวิวดาว, ข้อมูลองค์กร หรือ ข้อมูลกิจกรรมต่างๆ

Schema Markup จะใช้รูปแบบของข้อมูลที่เรียกว่า "schema.org" ซึ่งเป็นความตกลงร่วมกันระหว่าง Google, Bing, Yahoo! และ Yandex เพื่อสามารถแปลความหมายของข้อมูลในหน้าเว็บได้อย่างเป็นมาตรฐาน

การใช้งาน Schema Markup สามารถช่วยให้เว็บไซต์ของคุณปรากฏอยู่ในกลุ่มที่เรียกว่า "Rich Snippets" หรือ "Rich Results" ที่มีความสามารถในการดึงดูดความสนใจของผู้ใช้ในเครื่องมือค้นหา เพิ่มโอกาสในการคลิกเข้าชมเว็บไซต์ของคุณ และอาจนำไปสู่การปรับปรุงอันดับในการค้นหา

 

ยกตัวอย่างของ SEO Schema Markup สำหรับเว็บไซต์ร้านอาหาร:

1.รีวิว (Review) - เพิ่มข้อมูลรีวิวในรูปแบบของ Schema Markup จะช่วยให้เครื่องมือค้นหาแสดงคะแนนรีวิวในหน้าผลลัพธ์การค้นหา

<script type="application/ld+json">

{

  "@context": "https://schema.org/",

  "@type": "Restaurant",

  "name": "ร้านอาหารตัวอย่าง",

  "aggregateRating": {

    "@type": "AggregateRating",

    "ratingValue": "4.5",

    "reviewCount": "250"

  }

}

</script>

2.สถานที่ตั้ง (Local Business) - คุณสามารถเพิ่มข้อมูลเกี่ยวกับที่ตั้งของร้านอาหาร รวมถึงชื่อ, ที่อยู่, เบอร์โทรศัพท์, และเวลาเปิด-ปิด

<script type="application/ld+json">

{

  "@context": "https://schema.org",

  "@type": "LocalBusiness",

  "name": "ร้านอาหารตัวอย่าง",

  "address": {

    "@type": "PostalAddress",

    "streetAddress": "123 ถนนตัวอย่าง",

    "addressLocality": "กรุงเทพ",

    "postalCode": "10240",

    "addressCountry": "TH"

  },

  "telephone": "+6621234567",

  "openingHours": [

    "Mo-Sa 11:00-22:00",

    "Su 16:00-22:00"

  ]

}

</script>

 

การใช้งาน SEO Schema Markup ในตัวอย่างเหล่านี้จะช่วยให้เครื่องมือค้นหาแสดงข้อมูลเพิ่มเติมในหน้าผลลัพธ์การค้นหา เช่น คะแนนรีวิว, ที่อยู่, เบอร์โทรศัพท์, และเวลาเปิด-ปิดของร้านอาหาร นำไปสู่การเพิ่มความสนใจของผู้ใช้ในการค้นหาและเข้าชมเว็บไซต์ของคุณ

หนังสือพัฒนาตัวเอง

จุดเริ่มต้นที่ชัดเจน

เว็บไซต์หรือแอปพลิเคชั่นของคุณเริ่มต้นที่นี่

ลงทะเบียนแล้วเราจะส่งข้อเสนอที่ดีที่สุดให้กับคุณ