บทความ
Syntax , Object Oriented Programming เข้าใจแบบง่ายๆ
Syntax ในการเขียนโปรแกรม หมายถึง โครงสร้างภาษา หรือรูปแบบในการเขียนภาษา ที่กำหนดวิธีการเขียนโค้ดให้ถูกต้องตามภาษาที่ใช้งาน โดยมีการกำหนดวิธีการใช้คำสั่ง ตัวแปร และการเขียนโค้ดต่าง ๆ อย่างเหมาะสมและถูกต้อง ทำให้โค้ดสามารถทำงานได้อย่างถูกต้องและเป็นไปตามที่ต้องการ
Object Oriented Programming (OOP) เป็นแนวคิดในการเขียนโปรแกรมที่มุ่งเน้นไปที่วัตถุ (Object) เพื่อทำให้โค้ดมีความสมบูรณ์และอ่านง่ายมากขึ้น โดยมีคุณสมบัติหลัก ๆ ดังนี้
-
Encapsulation: การป้องกันการเข้าถึงและแก้ไขข้อมูลที่สร้างขึ้นในคลาส โดยใช้คีย์เวิร์ด private, public, และ protected เพื่อเข้าถึงตัวแปรและเมทอดในคลาส
-
Inheritance: การสืบทอดคุณสมบัติของคลาสหลัก (Superclass) ไปยังคลาสย่อย (Subclass) เพื่อลดการเขียนโค้ดซ้ำซ้อน
-
Polymorphism: ความสามารถในการสร้างเมทอดที่มีชื่อเหมือนกันแต่มีพฤติกรรมที่แตกต่างกันได้ เช่น การ overload method หรือการ override method
โดยการเขียนโปรแกรมเชิงวัตถุ OOP จะประกอบด้วยคลาส (Class) และออบเจ็กต์ (Object) ซึ่งต้องเข้าใจกันดังนี้
-
Class: คือแบบแผนการสร้างวัตถุ (Blueprint) ที่กำหนดคุณสมบัติและพฤติกรรมของวัตถุ โดยประกอบด้วยตัวแปร (Properties) และเมทอด (Methods)
-
Object: คือสิ่งที่สร้างขึ้นจากแบบแผนการสร้างวัตถุ (Class) โดยจะมีคุณสมบัติและพฤติกรรมตามที่ได้กำหนดไว้ในคลาส
Synchronous (ซิงโครนัส) และ Asynchronous (อะซิงโครนัส) คือสองแบบการทำงานของโปรแกรมที่แตกต่างกันตามวิธีการประมวลผลของคำสั่ง ใน Synchronous คำสั่งจะทำงานต่อเนื่องกัน และจะต้องรอให้คำสั่งก่อนหน้าเสร็จก่อนถึงจะทำคำสั่งถัดไป ในขณะเดียวกัน ใน Asynchronous คำสั่งจะทำงานพร้อมกันและไม่จำเป็นต้องรอให้คำสั่งก่อนหน้าทำงานเสร็จก่อน โดยมีการใช้โครงสร้างของ callback ในการจัดการกับผลลัพธ์
Callback คือฟังก์ชันที่ถูกส่งไปยังฟังก์ชันอื่นเพื่อให้มันทำงานเมื่อฟังก์ชันอื่นทำงานเสร็จสิ้นแล้ว ส่วนใหญ่ใช้กับการเรียกใช้ฟังก์ชันแบบ Asynchronous เพื่อรับผลลัพธ์หลังจากทำงานเสร็จสิ้น โดยในการเรียกใช้ฟังก์ชันแบบ Asynchronous จะมีการส่ง callback function ไปยังฟังก์ชันอื่นเพื่อให้มันทำงานเมื่อฟังก์ชันอื่นทำงานเสร็จสิ้น ซึ่งจะช่วยลดเวลาที่ต้องใช้ในการรอผลลัพธ์ออกมา และช่วยให้โปรแกรมทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
เพื่อให้เข้าใจง่ายขึ้น สามารถอธิบายได้ดังนี้
-
Synchronous: การใช้งานเมื่อต้องการเรียกใช้งาน function ให้ทำงานตามลำดับ โดยไม่สนใจเวลาที่จะใช้ในการทำงานของ function ก่อนหน้า
-
Asynchronous: การใช้งานเมื่อต้องการเรียกใช้งาน function โดยไม่จำเป็นต้องรอให้ function ก่อนหน้าทำงานเสร็จสิ้น แต่สามารถทำงานพร้อมกันได้ โดยมีการใช้ callback function เพื่อจัดการผลลัพธ์
-
Callback: เป็นฟังก์ชันหรือตัวแปรที่สามารถถูกส่งเป็นอาร์กิวเมนต์ (Arguments) ในฟังก์ชันอื่นเพื่อทำงานต่อเมื่อฟังก์ชันนั้นทำงานเสร็จแล้ว ซึ่งการใช้ Callback เป็นเทคนิคหนึ่งที่ช่วยให้เราจัดการกับ Asynchronous การทำงานได้ง่ายขึ้น โดยทั่วไปแล้ว Callback จะถูกส่งเป็นพารามิเตอร์สุดท้ายในฟังก์ชัน เพื่อให้ฟังก์ชันทำงานเมื่อทำงานเสร็จสิ้น
Class ,method ,property , Function , Arguments , Parameter คือ
-
Class: คือรูปแบบการเขียนโปรแกรมที่เป็นแบบชนิดหนึ่ง ที่ใช้สำหรับกำหนดคุณสมบัติและพฤติกรรมของอ็อบเจกต์
-
Method: คือฟังก์ชันที่อยู่ภายในคลาส ซึ่งมีการกำหนดพฤติกรรมของอ็อบเจกต์
-
Property: คือตัวแปรที่อยู่ภายในคลาส ซึ่งมีการกำหนดคุณสมบัติของอ็อบเจกต์
-
Function: คือชุดคำสั่งที่รวมกันเป็นกลุ่มเพื่อให้ทำงานบางอย่าง โดยสามารถส่งค่าออกมาได้หรือไม่ก็ไม่ต้องส่งค่าออกมาก็ได้
-
Arguments: คือข้อมูลที่ส่งเข้าไปในฟังก์ชันเพื่อนำมาประมวลผล ซึ่งสามารถเป็นค่าตัวแปรหรือค่าคงที่ได้
-
Parameter: คือตัวแปรที่กำหนดไว้ภายในฟังก์ชันเพื่อรับค่า Arguments ที่ถูกส่งเข้ามา ซึ่งจะถูกใช้งานในการประมวลผลของฟังก์ชันเท่านั้น โดย Parameter จะถูกกำหนดในช่วงการประกาศฟังก์ชัน
เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง
หนังสือพัฒนาตัวเอง
จุดเริ่มต้นที่ชัดเจน